เข้าใจภาวะเปราะบางในผู้สูงอายุชาย: ความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชาย
ในช่วงวัยชรา ผู้สูงอายุมักเผชิญกับภาวะเปราะบาง (Frailty) ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ความอ่อนแอทางร่างกาย แต่ยังส่งผลต่อจิตใจและสังคมด้วย ภาวะนี้มักเกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกายที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันยากลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ มีการศึกษาพบว่า ผู้ชายที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป มีโอกาสเกิดภาวะเปราะบางถึง 11% โดยเฉพาะผู้ที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ
สาเหตุและอาการของภาวะเปราะบาง
ผู้สูงอายุชายเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อภาวะเปราะบางมากที่สุด เนื่องจากระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ที่ลดลงตามอายุ ส่งผลให้สมรรถภาพทางร่างกายลดลง ซึ่งสัมพันธ์กับ
อาการต่อไปนี้:
โลหิตจาง: หากเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาจเป็นผลจากฮอร์โมนเพศชายต่ำ
Metabolic Syndrome: เช่น โรคเบาหวานที่เกิดจากระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากฮอร์โมนเพศชายต่ำ
กระดูกพรุน: ความหนาแน่นของกระดูกต่ำลง จนกระดูกแตกหักง่าย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ผลจากเคมีบำบัด: ผู้ที่เคยได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด อาจมีระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง
นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือมีค่า BMI > 30 kg/m2 ควรสังเกตอาการของภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย เช่น ความต้องการทางเพศลดลง อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ
แนวทางการรักษาและการป้องกัน
ภาวะเปราะบางในผู้สูงอายุชายสามารถป้องกันได้โดยการดูแลตนเองอย่างดี เริ่มจากการตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย หากพบว่ามีภาวะพร่องฮอร์โมน ควรรับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน โดยการทาฮอร์โมนทดแทนเป็นวิธีที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคปัจจุบัน
การรักษาภาวะเปราะบางด้วยฮอร์โมนทดแทนจะช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดง ลดภาวะโลหิตจาง ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นและแข็งแรงขึ้น