Social Egg Freezing: แช่แข็งไข่ ทางเลือกใหม่สำหรับผู้หญิงที่วางแผนมีลูกในอนาคต
“การแช่แข็งไข่” เป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันมากขึ้นในปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนให้ความสนใจ บางคนอาจอยู่ในช่วงเวลาหาข้อมูล บางคนได้ตัดสินใจเก็บไข่ไว้แช่แข็งแล้ว และอีกหลายคนก็ได้นำไข่ที่แช่แข็งไว้มาใช้เพื่อให้กำเนิดลูกน้อยไปแล้ว
แช่แข็งไข่ คืออะไร?
เทคโนโลยีเกี่ยวกับการแช่แข็งไข่ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ เป็นวิวัฒนาการที่มีมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยในยุคแรกนั้นอัตราความสำเร็จของการใช้ไข่ที่แช่แข็งอยู่ในระดับต่ำ จนกระทั่งปี 2007 ก็ได้มีการคิดค้นเทคนิคใหม่ ในการแข่แข็งไข่ด้วยการลดความเย็นในอัตราที่รวดเร็ว ร่วมกับการใช้สารป้องกันการเกิดเกล็ดน้ำแข็งความเข้มข้นสูง (Vitrification Technique) ทำให้อัตราการอยู่รอดของไข่ รวมถึงคุณภาพของไข่หลังจากการละลาย มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างมาก ทำให้อัตราการประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงขึ้นอย่างมาก
ในระยะแรกแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจที่จะนำเสนอทางเลือกในการแช่แข็งไข่ให้กับผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็ง ผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือ การฉายแสงที่จะทำให้เกิดภาวะรังไข่หยุดทำงานได้ แต่ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงส่วนหนึ่งให้ความสำคัญกับการที่จะแช่แข็งไข่ จากความรู้ความเข้าใจที่ว่าการทำงานของรังไข่ ทั้งในแง่จำนวนของไข่ และ คุณภาพของไข่มีการเสื่อมลงตามอายุที่มากขึ้น ในขณะที่อายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์ครั้งแรกก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตที่ให้เวลากับการศึกษา และ การแสวงหาความสำเร็จในการทำงาน ก่อนที่จะมีความพร้อมที่จะตั้งครรภ์
กระบวนการแช่แข็งไข่
ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งไข่ แพทย์จะแนะนำให้มีการตรวจประเมินการทำงานของรังไข่ก่อน เพราะพบว่า 1 ใน 5 ของผู้หญิงที่ต้องการจะเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งไข่ มีภาวะการทำงานของรังไข่ที่เสื่อมโดยไม่ทราบมาก่อน ในกรณีที่ตรวจพบว่าการทำงานของรังไข่เสื่อม อาจจะมีการให้ทานวิตามิน เพื่อบำรุงรังไข่ 2-3 เดือนก่อนที่เริ่มกระบวนการกระตุ้นไข่
คำถามที่มักจะเกิดขึ้นเสมอเกี่ยวกับการแช่แข็งไข่ คือ ควรจะแช่แข็งไข่จำนวนกี่ใบ?
ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ได้มีข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนไข่ที่แช่แข็ง อย่างไรก็ตามมีการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้คำนวณความสัมพันธ์ระหว่างโอกาสการตั้งครรภ์ กับจำนวนไข่ที่แช่แข็ง พบว่าตัวแปรที่สำคัญคือ อายุที่ทำการแช่แข็งไข่ โดยพบว่าในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่มีไข่แช่แข็งไว้ 10 ใบ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75%, หากมีไข่แช่แข็งไว้ 20 ใบ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95% และ หากมีไข่แช่แข็งไว้ 30 ใบ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 99 % ในขณะที่ผู้หญิงอายุ 44 ปี ที่แม้จะมีไข่แช่แข็งไว้ 100 ใบ โอกาสการตั้งครรภ์ก็อยู่เพียงประมาณ 50% ดังนั้นคำแนะนำโดยทั่วไป ก็จะแนะนำให้ผู้หญิงแช่แข็งไข่ก่อนอายุ 30 ปี เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และควรแช่แข็งไข่ไว้ 10-20 ใบ ในผู้หญิงที่อายุสูงขึ้นจำนวนไข่ที่ต้องแช่แข็งไว้ก็จะมีจำนวนมากขึ้น อย่างไรก็ดี แนะนำให้ผู้ที่สนใจจะแช่แข็งไข่ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำโดยละเอียด เพราะอัตราความสำเร็จส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับความสามารถของห้องปฏิบัติการด้วย
หลายคนเมื่อถึงเวลาที่จะตัดสินใจทำการแช่แข็งไข่ ก็จะเกิดคำถามอีกว่า ควรทำที่สถานพยาบาลแห่งใด? เนื่องจากการเก็บแช่แข็งไข่ไว้เพื่อใช้ในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า การเลือกสถานพยาบาลก็ควรคำนึงถึงความมั่นคงของสถาบัน เหมือนกับการเลือกธนาคารไว้ฝากเงิน เพื่อความมั่นใจว่าสถานพยาบาลจะยังคงดำเนินการต่อไปได้ตราบนานเท่านาน นอกจากนี้ควรศึกษาหาข้อมูลว่าสถานพยาบาลที่จะแช่แข็งไข่ มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนกับการละลายไข่ออกมาใช้ เพราะในปัจจุบัน มีสถานพยาบาลหลายแห่งที่ให้บริการแช่แข็งไข่ แต่กลับพบว่าจำนวนสถานพยาบาลที่มีประสบการณ์ในการนำไข่แช่แข็งออกมาใช้เพื่อให้กำเนิดทารก กลับมีจำนวนไม่มาก
ผู้เขียน:
น.พ. สมเจตน์ มณีปาลวิรัตน์
สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
โรงพยาบาล เจตนิน