การป้องกันการคลอดก่อนกำหนด: ภาวะแทรกซ้อนที่สามารถหลีกเลี่ยงได้
การคลอดก่อนกำหนด: ภาวะแทรกซ้อนที่สามารถป้องกันได้
การคลอดก่อนกำหนดหมายถึงการคลอดทารกที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์ ซึ่งทารกที่เกิดในช่วงนี้มักจะมีน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม และมีการพัฒนาของอวัยวะต่างๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์ เช่น ระบบทางเดินหายใจ สมอง การมองเห็น และระบบย่อยอาหาร ดังนั้น ทารกเหล่านี้จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อช่วยเสริมพัฒนาการในอนาคต
ปัจจัยเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
– ปากมดลูกสั้น
– เลือดออกในช่วงไตรมาสแรก
– เคยมีการคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน
– การตั้งครรภ์แฝดหรือการตั้งครรภ์ด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (IVF)
– การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือช่องคลอด
– ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ครรภ์เป็นพิษหรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์
วิธีป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น:
– งดสูบบุหรี่
– พักผ่อนให้เพียงพอ
– ลดน้ำหนักหากน้ำหนักเกิน
– หลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์แฝด
– ตรวจสุขภาพฟันและเหงือก
– รักษาการติดเชื้อที่พบในช่วงตั้งครรภ์
การใช้ฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
การใช้ฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนในรูปแบบการฉีด เหน็บทางช่องคลอด หรือรับประทานตั้งแต่ไตรมาสที่สอง สามารถลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดได้ถึง 20% โดยเฉพาะในผู้ที่มีปากมดลูกสั้น หรือมีประวัติการคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน
การดูแลที่เหมาะสมสำหรับผู้มีความเสี่ยง
แม้ว่าคุณแม่ที่มีความเสี่ยงสามารถออกกำลังกายและมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ ควรปรึกษาสูติแพทย์เพื่อคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้การคลอดเป็นไปตามกำหนดและทารกมีสุขภาพแข็งแรง.
ผู้เขียน:
ผศ.นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล
หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์
ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น