วิธีการรักษาช่องคลอดแห้ง: ปัญหาที่ไม่ได้เกิดแค่ในวัยหมดประจำเดือน ตอนที่ 2

โดย : Admin Besinsthailand วันที่เผยแพร่ : 30 ตุลาคม 2567
โดย : Admin Besinsthailand วันที่เผยแพร่ : 30 ตุลาคม 2567
แชร์ข้อมูล
ช่องคลอดแห้ง ตอนที่ 2

วิธีการรักษาช่องคลอดแห้ง: ปัญหาที่ไม่ได้เกิดแค่ในวัยหมดประจำเดือน ตอนที่ 2

การรักษาภาวะช่องคลอดแห้ง อาจทำได้ดังนี้

1. รักษาด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน

  • การรับประทานยาฮอร์โมนเอสโตรเจนนั้น เหมาะสำหรับกรณีรักษาอาการวัยทอง เช่น ร้อนวูบวาบ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ผลทางคลินิกในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันกระดูกพรุน ( ในกรณีไม่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมน )  แต่ได้ผลช่วยลดอาการช่องคลอดแห้งไม่เต็มที่นัก  ร้อยละ 10-20 ของผู้หญิงยังมีอาการช่องคลอดแห้งอยู่                                                                                                                                                                                                                                                        
  • การทายาฮอร์โมนเอสโตรเจนในช่องคลอด  ซึ่งเป็นเอสโตรเจนระดับฮอร์โมนน้อย ๆ   มีการศึกษาของสมาคมวัยทองแห่งสหรัฐอเมริกา The North American Menopause Society (NAMS) ปี ค.ศ. 2007  พบว่าได้ผลดีในการรักษาภาวะช่องคลอดแห้ง  ไม่ว่าจะเป็นชนิดเม็ด ครีม วงแหวน สอดช่องคลอด  ในปัจจุบัน  การใช้ฮอร์โมนแม้ในขนาดต่ำ ๆ ทาในช่องคลอด  ก็มีการศึกษาพบว่าทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในกระแสเลือดเพิ่มด้วยเช่นกัน  จึงต้องระมัดระวังในการใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่อาจมีข้อบ่งห้ามในการใช้ฮอร์โมน  จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ  อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ทางการแพทย์ยังมีการศึกษาต่อเนื่อง ในการคิดค้นยาฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงที่ช่องคลอด  โดยไม่ส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ต่อไป

2. รักษาด้วยการใช้สารให้ความชุ่มชื้น ที่ไม่ใช่ฮอร์โมน หรือที่เราเรียกกันว่า moisturizer  เหมือนกับการใช้ moisturizer ที่ทาผิวแห้งตามร่างกาย  ซึ่งเป็นรูปแบบเจลสอดในช่องคลอด  ซึ่งสามารถใช้ได้ยาวนาน ไม่ส่งผลต่อร่างกายโดยรวม เนื่องจากไม่มีฮอร์โมน  มีคุณสมบัติเคลือบปกป้องผิวช่องคลอดให้ชุ่มชื้น โดยใส่ในช่องคลอดทุก ๆ  2-3 วัน   ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำให้การรักษาไม่จำกัดเฉพาะการใช้ฮอร์โมน การใช้สารให้ความชุ่มชื้นมีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากไม่มีฮอร์โมน จึงสามารถใช้ได้บ่อย และต่อเนื่องได้นาน โดยไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงจากฮอร์โมน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตรีที่มีข้อบ่งห้ามในการใช้ฮอร์โมน ในต่างประเทศ การใช้สารให้ความชุ่มชื้นในรูปแบบเจลนี้ ได้รับความนิยมมาก ยิ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ อายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงคือ 75 ปี นั่นคือหลังเข้าสู่วัยหมดระดูที่อายุเฉลี่ย 50 ปี  ผู้หญิงจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในวัยหมดระดู และทนกับอาการช่องคลอดแห้งนานถึง 25 ปี การดูแลสุขภาพช่องคลอดจึงต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกับการดูแลผิวพรรณตำแหน่งอื่น ๆ ให้ชุ่มชื้นเช่นกัน

3. การใช้เจลหล่อลื่น สำหรับกรณีปัญหาหลักอยู่ที่การเจ็บ แสบขณะมีเพศสัมพันธ์  ก็สามารถใช้เจลหล่อลื่น เฉพาะขณะมีกิจกรรม  โดยทาบริเวณช่องคลอด ปากช่องคลอด หรืออวัยวะเพศชายก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือ คุณสมบัติของเจลหล่อลื่นนั้น ใช้เฉพาะช่วยหล่อลื่นขณะมีกิจกรรมเท่านั้น ไม่ได้มีคุณสมบัติบำรุงและปกป้องแบบสารให้ความชุ่มชื้น หรือ moisturizer

4. การให้วิตามินกับอาหารเสริม ยังไม่มีการศึกษาพิสูจน์ชัดเจนถึงการใช้ วิตามิน E  และ วิตามิน D ว่าได้ผลในการรักษาภาวะช่องคลอดแห้ง

5. การใช้เลเซอร์ชนิด Fractional CO2   ปัจจุบัน มีเทคโนโลยีใหม่ในการใช้เลเซอร์ ในการรักษาแบบฟื้นฟู โดยเครื่องจะปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาแบบ 360 องศา  ไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสท์ ช่วยทำให้ผลิตและจัดเรียงเส้นใยคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น  ทำให้เซลล์ช่องคลอดผลิตสารคัดหลั่งเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความชุ่มชื้นขึ้นตามมา การใช้สารให้ความชุ่มชื้น หรือ moisturizer หลังรักษาด้วยเลเซอร์ ก็จะยิ่งคงความชุ่มชื้น และให้ผลการรักษาที่ดี และยาวนานมากขึ้น

ปัญหาช่องคลอดและปากช่องคลอดแห้ง  อาจฟังดูเหมือนผิวแห้ง  แต่เมื่อเกิดบริเวณช่องคลอดแล้ว ส่งผลต่อหลายระบบ เนื่องจากผนังช่องคลอดรองรับกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะด้วย จึงทำให้มีอาการทั้งแห้ง ระคายเคือง แสบร้อน ปัสสาวะขัด และรวมถึงกิจกรรมกับสามี  การดูแลจุดซ่อนเร้นให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอจึงมีความสำคัญ จะเห็นได้ว่า การรักษาไม่จำกัดเฉพาะการใช้ฮอร์โมน การใช้สารให้ความชุ่มชื้นมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากใช้ง่าย ใช้ได้บ่อย และต่อเนื่องได้นาน การดูแลให้ช่องคลอดชุ่มชื้นจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป

ผู้เขียน:

พญ.ธิศรา วีรสมัย

สูตินรีแพทย์ หัวหน้าศูนย์สุขภาพหญิง และ หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย

Smart Life Anti-aging Center รพ.พญาไท 1

pastedGraphic.png

บทความที่น่าสนใจ

บทความที่น่าสนใจ